คณะเทคโนโลยีการเกษตร มรภ.สงขลา จัดอบรมผลิตผักยกแคร่อินทรีย์ครบวงจร ดึงผู้สนใจร่วมฝึกทักษะเรียนรู้วิทยากรจากผู้เชี่ยวชาญ ประยุกต์ใช้ภูมิปัญญาควบคู่องค์ความรู้ทางวิชาการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมแปลงผัก ต่อยอดสู่การประกอบอาชีพ สร้างรายได้ ขยายผลสู่ชุมชน
      เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) จัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การผลิตผักยกแคร่อินทรีย์ครบวงจร” ณ คณะเทคโนโลยีการเกษตร สถานีปฏิบัติการพืชสวน และ โรงผลิตปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยชีวภาพต้นแบบ มรภ.สงขลา โดยมี รศ.ดร.คริษฐ์สพล หนูพรหม คณบดีคณะเทคโนโลยีการเกษตร เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมทั้งบรรยายเรื่อง การผลิตผักยกแคร่อินทรีย์ครบวงจร ร่วมกับวิทยากร ผศ.ดร.อมรรัตน์ ชุมทอง อาจารย์คณะเทคโนโลยีการเกษตร ให้แก่บุคคลทั่วไปที่สนใจเข้าร่วมอบรมกว่า 20 คน เพื่อให้มีความรู้และทักษะ สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพการผลิตผักยกแคร่อินทรีย์ครบวงจรได้
     ทั้งนี้ การปลูกผักยกแคร่ถือเป็นวิธีการที่นำเอาภูมิปัญญามาช่วยแก้ไขปัญหา โดยการปลูกผักไว้บนแคร่ ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมแปลงผัก และสามารถบริหารจัดการแปลงผักอินทรีย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น หลักสูตรเทคโนโลยีบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีการผลิตพืช จึงได้จัดทำหลักสูตรระยะสั้นอบรมผลิตผักยกแคร่อินทรีย์ครบวงจร โดยผู้เข้าร่วมการอบรมได้เรียนรู้และลงมือฝึกปฏิบัติการตั้งแต่การเตรียมดินปลูก การเตรียมวัสดุเพาะกล้า การผลิตปุ๋ยอินทรีย์ (น้ำสกัดมูลสัตว์ ปุ๋ยหมัก และน้ำหมักชีวภาพ) การเพาะเมล็ดพันธุ์ให้ขึ้น 100% วิธีการปลูกผักปลอดสารพิษ การดูแลรักษา และป้องกันกำจัดศัตรูพืช ซึ่งผู้เข้ารับการอบรมได้รับความรู้และสามารถนำความรู้ที่ได้รับกลับไปต่อยอดในการประกอบอาชีพและสร้างรายได้ ตลอดจนขยายผลสู่ชุมชนต่อไป
     การอบรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) เป้าหมายที่ 1 ยุติความยากจนทุกรูปแบบในทุกที่ เป้าหมายที่ 4 สร้างหลักประกันว่าทุกคนมีการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างครอบคลุมและเท่าเทียม และสนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิต เป้าหมายที่ 8 ส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง ครอบคลุม และยั่งยืน การจ้างงานเต็มที่และมีประสิทธิภาพ และการมีงานที่มีคุณค่าสำหรับทุกคน และ เป้าหมายที่ 17 เสริมความเข้มแข็งให้แก่กลไกการดำเนินงานและฟื้นฟูสภาพหุ้นส่วนความร่วมมือระดับโลกสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืน

By Kasima

ใส่ความเห็น

ประเด็น

ทะลุจินตนาการ สัมผัสประสบการณ์เย็นสุดขั้ว -15°Cเผยเสน่ห์ไทยในรูปแบบใหม่ ครั้งแรกในประเทศไทย *กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับ จังหวัดสงขลา และเทศบาลนครหาดใหญ่ เปิดงาน “Vijit @Hat Yai “เสน่ห์ไทย ICE DOME” อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568 โดยมี นายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายณัฐ ครุฑสูตร ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายเจตสกุล เพ็ชรสกุล รองนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ และผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมงานฯ ในการมาร่วมสัมผัสประสบการณ์ครั้งแรกในประเทศไทย เผยเสน่ห์ไทยในรูปแบบใหม่ ด้วยการเปิดโลกน้ำแข็งขนาดมหึมา ที่จะทำให้คุณตื่นตาตื่นใจไปกับประติมากรรมน้ำแข็งแกะสลัก เพื่อนำเสนอความงดงามด้านประเพณี ศิลปะ และสถาปัตยกรรมผ่านรูปทรงแลนด์มาร์คสำคัญ และตัวละครในวรรณคดีที่เป็นไอคอนนิค และสะท้อนเสน่ห์ความเป็นไทย รวมถึงยังมีคาราวานร้านค้าร้านอาหารสุดปังทั่วทั้งงาน พร้อมโชว์การแสดงแกะสลักประติมากรรมน้ำแข็งในทุกๆ วันเสาร์และวันอาทิตย์ ณ สวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ เข้าชมฟรีได้ทุกวัน ไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม – 21 กันยายน 2568 เวลา 11.00 – 21.00 น.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้จัดโครงการเปิดประสบการณ์ Thailand Festival Experience สุดยิ่งใหญ่ในสามพื้นที่ จังหวัดอุดรธานี จังหวัดสงขลา เมืองหาดใหญ่ และจังหวัดลำปาง เพื่อตอกย้ำแนวคิด 5 Must Do in Thailand ให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยคุณค่าและความหมาย ซึ่ง จังหวัดสงขลา เมืองหาดใหญ่ เป็นพื้นที่ที่สองของการจัดงาน ในการสร้างประสบการณ์อันทรงคุณค่าและมุ่งสู่ความยั่งยืน พร้อมสร้างแรงจูงใจให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศให้มากยิ่งขึ้น ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้เดินทางมาสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวอันอัศจรรย์ด้วยการแสดง Light & Sound การแสดง Illumination ที่จะช่วยขยายเวลาการท่องเที่ยวในช่วงกลางคืนถือเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ก่อให้เกิดการจ้างงาน และสร้างรายได้หมุนเวียนต่อระบบเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ คาดการณ์ว่าตลอดระยะเวลาการจัดงานจะสร้างรายได้หมุนเวียนทางเศรษฐกิจมากถึง 720 ล้านบาท“Vijit @Hat Yai “เสน่ห์ไทย ICE DOME” มาเปลี่ยนค่ำคืนธรรมดาให้กลายเป็นช่วงเวลาแฟนตาซีเหนือจิตนาการกับ 7 จุดการแสดง ประกอบด้วยจุดที่ 1 ใต้สายธาราศิลป์ การแสดง Immersive สายน้ำไหล สัมผัสพลังแห่งการไหลเวียนของศิลป์ ผ่านเทคนิค Projection สุดตระการตา