โออาร์ จัดกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์สื่อมวลชนภูมิภาค ประจำปี 2567 ตอกย้ำวิสัยทัศน์ “เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโตร่วมกัน” อย่างแท้จริง

นายชูชาติ โพธิรัชต์ ผู้จัดการฝ่ายคลังปิโตรเลียมส่วนภูมิภาค พร้อมด้วย นายภาณุพันธ์ ทรัพย์จรัสแสง ผู้จัดการฝ่ายคลังปิโตรเลียมส่วนกลางและตะวันออก

นายกานต์ ศรัทธากุล ผู้จัดการฝ่าย ประจำรองประธาน

เจ้าหน้าที่บริหารด้านปฏิบัติการคลังปิโตรเลียม

และนายพงษ์ศักดิ์ ภัทรเมธีวิญญู ผู้อำนวยการโครงการบริหารห่วงโซ่อุปทานเมล็ดกาแฟดิบ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (โออาร์) ต้อนรับ

Screenshot

คณะสื่อมวลชนภูมิภาคจาก 6 จังหวัด ได้แก่ จ.ลำปาง จ.ชลบุรี จ.ขอนแก่น จ.สงขลา จ.สระบุรี และจ.เชียงใหม่ ที่เข้าเยี่ยมชมโรงแปรรูปเมล็ดกาแฟคาเฟ่ อเมซอน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่

พร้อมแวะชม ทำกิจกรรมในสวน “ปลูกผักเพราะรักพ่อ” ณ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ และเข้าเยี่ยมชม พีทีที สเตชั่น หจก.สุขุมเซอร์วิส สาขาแม่ริม

Screenshot


โออาร์ ได้จัดกิจกรรมสัมมนาสื่อมวลชนภูมิภาคมาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นสื่อมวลชนจังหวัดที่มีสถานปฏิบัติการหลักของโออาร์ ตั้งอยู่

เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีกับสื่อมวลชนในพื้นที่ และเป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมทั้งร่วมหาแนวทางในการสร้าง โอกาสเติบโตให้กับทุกภาคส่วนทั้งภาคธุรกิจ สังคม ชุมชน อย่างยั่งยืน ซึ่งในปีนี้ได้เชิญสื่อมวลชนจาก จ.ลำปาง จ.ชลบุรี จ.ขอนแก่น

จ.สงขลา จ.สระบุรี และ จ.เชียงใหม่ มาเยี่ยมชมโรงแปรรูปเมล็ดกาแฟคาเฟ่ อเมซอน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ พร้อมแวะชม ทำกิจกรรมในสวน “ปลูกผักเพราะรักพ่อ” ณ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ พบปะพูดคุยกับผู้บริหาร

บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (โอ้กะจู๋) และเยี่ยมชมกระบวนการต่างๆ

ในการปลูกผักอย่างใกล้ชิด และเข้าเยี่ยมชม พีทที สเตชั่น หจก.สุขุมเซอร์วิส สาขาแม่ริม ซึ่งเป็นตัวอย่างสถานีบริการที่มีองค์ประกอบของธุรกิจไลฟ์สไตล์อย่างครบวงจร

Screenshot

เป็นไปตามความตั้งใจของโออาร์ ที่หวังให้ พีทีที สเตชั่น เป็น “ศูนย์กลางชุมชน” หรือ “Living Community” เป็นพื้นที่สำหรับทุกคนและเป็นศูนย์กลางที่จะร่วมเติมเต็มทุกความสุขกับชุมชน ตลอดจนรับฟังทิศทางและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจค้าปลีกน้ำมันของโออาร์ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในการดำเนินธุรกิจของโออาร์ได้ดียิ่งขึ้น


ทั้งนี้ โรงแปรรูปเมล็ดกาแฟคาเฟ่ อเมซอน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ เป็นจุดรับซื้อเมล็ดกาแฟกะลาอะราบิกาจากเกษตรกร

ผู้ปลูกกาแฟโดยตรงในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมทั้งแปรรูปกาแฟกะลาเป็นกาแฟสารที่มีคุณภาพ ก่อนที่จะจัดส่งกาแฟสารให้โรงคั่วกาแฟคาเฟ่อเมซอนเพื่อคั่ว และจำหน่ายไปยังร้านกาแฟคาเฟ่อเมซอนทั่วประเทศ อีกทั้งยังเป็นศูนย์พัฒนาทักษะและความรู้ในการผลิตและแปรรูปกาแฟที่มีคุณภาพให้กับเกษตรกรไทย


การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ยังช่วยให้โออาร์ ได้รับมุมมองและข้อเสนอแนะจากสื่อมวลชนในภูมิภาค ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการนำไปเติมเต็มพัฒนาทิศทางดำเนินธุรกิจและแนวทางการสนับสนุนชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม

เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในพื้นที่ได้ตรงจุด ให้ทุกภาคส่วนเติบโตอย่างยั่งยืนและมีคุณภาพชีวิตที่ดีไปด้วยกัน

Screenshot

ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่าน OR SDG ทั้งในด้าน “S” หรือ “SMALL” ที่มุ่งเน้นการให้โอกาสเพื่อคนตัวเล็ก ด้าน “D” หรือ “DIVERSIFIED” ที่มุ่งสร้างโอกาสเพื่อทุกการเติบโตทุกรูปแบบ และด้าน “G” หรือ “GREEN” ที่มุ่งสร้างสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ (Healthy Environment) เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายของ OR 2030 รวมทั้งตอกย้ำวิสัยทัศน์ “Empowering All Toward Inclusive Growth” เพื่อเติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโตร่วมกันอย่างแท้จริง​

ติดตามข่าวสารได้ทาง
เว็บไซต์มหานครหาดใหญ่นิวส์
www.metro915news.com
ลงข่าวโฆษณาโทร0988796292

By Kasima

ใส่ความเห็น

ประเด็น

“ทวี”รมว.ยุติธรรมลงพื้นที่พบประชาชนในเมืองหาดใหญ่เร่งแก้ปัญหายาเสพติดชายแดนใต้จากผลพวงของน้ำใบกระท่อมและกัญชาทำผู้ป่วยเพิ่มขึ้น13เปอร์เซ็นต์และป่วยจิตเพิ่มขึ้น20เปอร์เซ็น เร่งแก้ปัญหาหนี้สินประชาชนและข้าราชการหนี้กยศ.และเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสส.เขต2หาดใหญ่สมัยหน้า ส่วนคดีฮั้วสว.เชื่อที่ดีเอสไอรับเรื่องต้องมีมูลเมื่อเวลา15.30น.วันนี้(10พ.ค.68)ที่โรงแรมญันนะตีย์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางไปพบปะเยี่ยมเยียนประชาชนในพื้นที่อ.หาดใหญ่และใกล้เคียงพร้อมกับแถลงถึงนโยบายต่างๆทั้งในส่วนของกระทรวงยุติธรรมและรัฐบาลโดยมีตัวแทนภาคประชาชนทั้ง103ชุมชนของเมืองหาดใหญ่ตัวแทนภาคธุรกิจและสมาคมองค์กรต่างๆในเมืองหาดใหญ่และคณะกรรมการอิสลามประจำจ.สงขลาเข้าร่วมรับฟังราว500คน และยังเปิดให้ร่วมกันสะท้อนปัญหาเร่งด่วนที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชนพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยหนึ่งปัญหาสำคัญของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ต้องเร่งแก้ไขและควบคุมคือเรื่องยาเสพติด ทั้งใบกระท่อมและกัญชาที่แม้ว่าจะถูกถอดออกจากบัญชียาเสพติดเพราะขณะนี้พบว่ามีการเปิดร้านขายใบกระท่อมและน้ำใบกระท่อมจำนวนมากซึ่งในส่วนของน้ำใบกระท่อมนั้นยังถือว่าผิดกฏหมายอยู่ที่สำคัญ จากการลงพื้นที่ไปประชุมเรื่องนี้พบว่าขณะนี้มีผู้ที่เข้ารับการรักษาจากการดื่มน้ำใบกระท่อมเพิ่มขึ้น 13 เปอร์เซ็นต์ และป่วยจิตเวชเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ซึ่งต้องเร่งหามาตรการควบคุมเพราะกำลังกลายเป็นปัญหาด้านความมั่นคง ซึ่งการแก้ปัญหาเรื่องยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อาจจะต้องนำกฏอัยการศึกกลับมาใช้ และผู้ค้ายาเสพติดจะต้องไม่มีที่อยู่อีกเรื่องที่ทางกระทรวงยุติธรรมกำลังเร่งแก้ปัญหาให้กับประชาชนคือเรื่องของหนี้สินรวมถึงหนี้ของข้าราชการโดยเฉพาะครูซึ่งเป็นหนี้มากที่สุด และหนี้กยศ.ซึ่งขณะนี้กระทรวงยุติธรรมกำลังเร่งดำเนินการอยู่ เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกหนี้และเจ้าหนี้ได้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย และ เข้าถึงกระบวนการยุติธรรม รวมถึงสิทธิประโยชน์อื่น ๆ จากสถาบันการเงิน นอกจากนี้ยังมีเรื่องการแก้ปัญหาที่ดินเพื่อให้ชาวบ้านต้องมีที่ทำกินอย่างน้อยๆ 20 ไร่ส่วนเรื่องที่ประชาชนได้สะท้อนผ่าน พ.ต.อ.ทวี ผ่านไปยังรัฐบาลคือเรื่องปัญหาเศรษฐกิจและราคาพืชผลทางการเกษตรโดยเฉพาะยางพาราที่ตกต่ำ ซึ่งมีเจ้าของสวนยางรายหนึ่งบอกว่าสวนยาง60ไร่ตอนนี้ไม่มีคนกรีดแล้วเพราะว่าราคายกตกต่ำ ซึ่งพ.ต.อ.ทวี ก็รับที่จะประสานให้นอกจากนี้พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมยังให้สัมภาษณ์ถึงคดีฮั้วสว.หลังจากที่กกต. และดีเอสไอ นำหมายเรียกคดีฮั้ว สว.ไปส่งมอบให้ สว. 53 คน เข้าชี้แจงโดยระบุว่าคดีนี้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ทุกอย่างมันมีกฎหมายอยู่ คดีนี้ไม่หนักใจ และยิ่งดีด้วยซ้ำที่มีการตรวจสอบ เพราะว่าตอนนี้แม้แต่องค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ ก็ยังมีการแจ้งข้อหา แสดงว่าที่ดีเอสไอรับทำเรื่องนี้ต้องมีมูลที่สำคัญจะต้องอำนวยความยุติธรรมให้ทุกคน แม้แต่คนที่เข้าใจว่าตนเองถูกกล่าวหาถ้าอยากจะไปให้การก็ไปได้ การทำงานของกระทรวงยุติธรรม โดยกรมสอบสวนอยากให้เป็นมืออาชีพ คำว่ามืออาชีพต้องมีวิชาชีพด้วย เพราะวิชาชีพกับอาชีพต่างกัน อาชีพจะหากำไร ส่วนวิชาชีพ ต้องมีศิลธรรมจรรยาบรรณและกฏหมายเข้าไป ทางดีเอสไอจะทำในฐานะวิชาชีพ จะปลอดจากอิทธิพลใดๆมาครอบงำ ส่วนการจะเรียกสว.ล๊อต2ล๊อต3มาชี้แจงหรือไม่นั้นเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับกกต.สำหรับการลงพื้นที่อ.หาดใหญ่ของพ.ต.อ.ทวี ในวันนี้ยังได้มีการเปิดตัว พล.ต.ท.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.นราธิวาส รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค9และเกษียณราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานงบประมาณและการเงินสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยสมัยหน้าจะลงสมัครสส.เขต 2 จ.สงขลา ซึ่งอยู่ในพื้นที่อ.หาดใหญ่ ในนามของพรรคประชาชาติด้วย เพื่อเป็นตัวแทนของชาวเมืองหาดใหญ่และของพรรคประชาชาติ และตอนนี้ถึงจะยังไม่เป็นสส.แต่ก็ให้ลงพื้นที่ทำงานเหมือนสส.เพื่อรับเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนผ่านไปยังรัฐบาลและขยายฐานของพรรคประชาชาตินอกเหนือจากพื้นที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เป็นฐานเสียงหลัก และสมัยหน้าพรรคประชาชาติก็จะส่งผู้สมัครครบทุกจังหวัดแต่อาจจะไม่ครบทุกเขต

สงขลา / สนามแตก ผู้การชาติ เพื่อน ลุงตู่ เบอร์ 4 ปราศรัย โค้งสุดท้ายคนนับหมื่นชูโยบายโดนใจคนทั้งเมืองหาดใหญ่วันนี้ ( 9 พฤษภาคม 2568 ) เวลา 18.30 น. ที่โรงเรียนเอ็งเสียงสามัคคีหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาพันเอก (พิเศษ) สุชาติ จันทรโชติกุล หรือที่รู้จักกันในนาม “ผู้การชาติ” ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในฐานะผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ หมายเลข 4 ในนาม “ทีมหาดใหญ่ต้องดีกว่าเดิม”โดยมีผู้ขึ้นปราศรัย นาย ประมุข ลมูล อดีต ผวจ.ปัตตานี ประธานที่ปรึกษา พันเอก (พิเศษ) สุชาติ จันทรโชติกุล นายพิเชฐฏ พัฒนโชติ อดีตรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และประธาน บจก.เฮลทีเอิร์ธ มีผู้สนใจเข้าฟังปราศรัยหมื่นกว่า คนในงานเปิดตัวครั้งนี้ พันเอกสุชาติได้แถลงนโยบายหลัก 6 ด้าน ภายใต้แนวคิด “ชุมชนดีกว่าเดิม” โดยเน้นการกระจายงบประมาณสู่ชุมชนอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส นโยบายสำคัญประกอบด้วย:• การจัดสรรงบประมาณ 130 ล้านบาทต่อปีให้กับ 103 ชุมชนในเขตเทศบาล เพื่อให้ชุมชนสามารถบริหารและพัฒนาตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ• การสนับสนุนกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ด้วยงบประมาณ 50 ล้านบาทต่อปี เพื่อเสริมสร้างระบบสาธารณสุขในระดับชุมชน• การส่งเสริมกลุ่มสตรีและเยาวชนให้มีบทบาทในการพัฒนาชุมชนและสังคม• การพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ให้มีความทันสมัยและตอบสนองความต้องการของประชาชน• การส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนและการสร้างงานในพื้นที่• การพัฒนาการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับประชาชนทุกช่วงวัย