ไอแบงก์ มอบรางวัลฮัจย์และอุมเราะห์ 45 รางวัล แจกสูงสุดในรอบ 10 ปี
ในพิธีจับสลากรางวัลแพ็กเกจเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์และอุมเราะห์ ประจำปี 2567
พร้อมจัดแคมเปญ “รับสิทธิ์ x2” ลุ้น 50 รางวัล มูลค่า 8.8 ล้านบาท ในปี 2568

เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์)
จัดพิธีจับสลากหาผู้ได้รับรางวัลแพ็กเกจเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ประจำปี 2567 จำนวน 45 รางวัล พร้อมเพิ่มจำนวนรางวัลผลิตภัณฑ์เงินฝากอัลฮัจย์และอุมเราะห์ เป็น 50 รางวัล
รวมมูลค่ากว่า 8.8 ล้านบาท ในปี 2568 โดยได้รับเกียรติจาก นายสุไลมาน บือแนปีแน
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดยะลา เขต 1 ผู้แทนประธานรัฐสภา เป็นประธานในพิธี ณ
หอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา จ.ยะลา ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการและผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) เปิดเผยว่า บัญชีเงินรับฝากอัลฮัจย์และอุมเราะห์ เป็นบัญชีเงินฝากประเภทออมทรัพย์สำหรับผู้ที่นั่นถือศาสนาอิสลาม อายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป หรือนิติบุคคลที่มีบุคลากรนับถือศาสนาอิสลาม โดยมีความประสงค์วางแผนทางการเงินเพื่อไปประกอบพิธีฮัจย์ด้วยการเก็บออม
ซึ่งไอแบงก์เล็งเห็นถึงความสำคัญจึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการออมประเภทนี้เพราะตระหนักดีว่าเป็นศาสนกิจสำคัญที่พี่น้องมุสลิมทุกคนปรารถนาจะกระทำหากมีโอกาสสักครั้งหนึ่งในชีวิต ธนาคารจึงมอบสิทธิ์ร่วมให้พี่น้องมุสลิมได้รับโอกาสพิเศษในชีวิตได้เป็นแขกของพระเจ้า ลุ้นรางวัลแพ็กเกจเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์และอุมเราะห์ ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย นอกเหนือจากที่ได้รับผลตอบแทนจากการออม

โดยธนาคารได้จัดกิจกรรมจับสลากเงินฝากอัลฮัจย์ครั้งแรกเมื่อปี 2558 มาจนถึงปี
2567 ซึ่งเป็นปีที่ 10 และได้เพิ่มจำนวนรางวัลสูงสุดในรอบทศวรรรษทั้งแพ็กเกจไปประกอบพิธีฮัจย์และพิธีอุมเราะห์ รวม 45 รางวัล มูลค่า 7,650,000 บาท ประกอบด้วยแพ็กเกจเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ จำนวน 20 รางวัล
รางวัลละ 270,000 บาท รวมมูลค่า5,400,000 บาท และแพ็กเกจเดินทางไประกอบพิธีอีอุมเราะห์ จำนวน 25 รางวัล รางวัลละ 90,000 บาท รวมมูลค่า 2,250,000 บาท รวม 10 ปี ไอแบงก์
มอบรางวัลแพ็กเกจไปประกอบพิธีฮัจย์แก่ผู้โชคดีไปแล้ว รวม 121 และในปีนี้มีชิ้นส่วนสลากจากจำนวนบัญชีเงินรับฝากอัลฮัจย์และอุมเราะห์ที่ฝากเงินครบตามเงื่อนไข ที่ธนาคารกำหนดด้วยวิธีการจับสลาก รวมจำนวนทั้งสิ้นกว่า 4.5 ล้านชิ้น-

ดร.ทวีลาภ
กล่าวเพิ่มเติมว่า การประกอบพิธีฮัจย์ถือเป็นศาสนกิจสำคัญที่พี่น้องมุสลิมทุกคนปรารถนาจะกระทำหากมีโอกาสสักครั้งหนึ่งในชีวิต โดยในปี พ.ศ.2567 มีผู้แสวงบุญทั่วโลกมากถึง 1.83 ล้านคน เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์
อีกทั้งทางการธาอุดีอาระเบียได้จัดธรรโควตาของผู้แสวงบุญชัจย์แก่ประเทศไทยเพิ่มขึ้น
ดังที่สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทยได้ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์ 7,738 เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์
จำนวน และขณะนี้กำลังเปิดลงทะเบียนผู้ประสงค์เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ประจำปี พ.พ.ศ. 2568 ซึ่งธนาคารคาดว่าจะมีผู้ลงทะเบียนแสดงความประสงค์เพิ่มขึ้น
ธนาคารจึงได้เพิ่มรางวัลสำหรับกิจกรรมจับสลากแพ็กเกจเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์และอุมเราะห์ ในปี 2568 เป็น 50 รางวัล รวมมูลค่าเงินรางวัล 8,820,000 บาท แบ่งเป็นแพ็กเกจเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ จำนวน 22 รางวัล (รางวัลละ 280.000 บาท รวมมูลค่า 6,160,000 บาท) และเป็นแพ็กเกจเดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ จำนวน 28 รางวัลท่านคน (รางวัลละ 95,000 บาท รวมมูลค่า 2,660,000 บาท) โดยจะเริ่มกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 ไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2568 และพิเศษ! ตลอดช่วงเดือนธันวาคม ศกนี้ ไอแบงก็ได้จัดแคมเปญ “รับสิทธิ์ x2” ในการลุ้นรับรางวัลจากกิจกรรมจับสลากแพ็กเกจเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์และอุมเราะห์ ประจำปี 2568 สำหรับลูกค้าเดิมที่คงยอดเงินฝากจนถึงเดือนธันวาคม 2567 (สิทธิ์จะนับ X2
ให้ในเดือนมกราคม 2568) และลูกค้าใหม่ที่เปิดบัญชีภายในเดือนธันวาคม 2567 (สิทธิ์จะนับ X2“ 2568) ให้ในเดือนมีนาคม

สำหรับกิจกรรมจับสลากแพ็กเกจเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์และอุมเราะห์ ประจำปี 25256568
บัญชีที่มีสิทธิ์ร่วมกิจกรรมบัญชีเงินฝากอัลฮัจย์และอุมเราะห์ เป็นประเภทเงินฝากออมทรัพย์ตามหลักมุฎอรอบะฮ์.

เปิดบัญชีขั้นต่ำเพียง 5000 บาท
จ่ายผลตอบแทนครั้งต่อปี ทุกสิ้นเดือนมิถุนายนและธันวาคม และเมื่อบัญชีมียอดเงินฝากคงเหลือทุกๆ 2,000 บาทต่อเดือน ติดต่อกัน 3 เดือน
ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ธนาคารให้สิทธิ์ลุ้นรับรางวัลแพ็กเกจเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์และอุมเราะห์ ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย จำนวน 1 สิทธิ์ ยิ่งฝากมากยิ่งมีสิทธิ์ได้ลุ้นรันรับรางวัลมาก โดยธนาคารจะคำนวณสิทธิ์ให้ทุกเดือน และรวบรวมสิทธิ์ทั้งหมดเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาโตรงการเพื่อนำไปทำเป็นสหากและจับรางวัล และนอกจากนี้ธนาคารยังได้มอบสิทธิ์สำหรับผู้ที่ได้รับรางวัลให้สามารถส่งมอบรางวัลนี้ต่อให้กับทายาทหรือผู้สืบสันดานตามกฎหมายกรณีไม่ประสงค์เดินทางเองและไม่ตัดสิทธิ์กรณีผู้โชคดีได้รับหลายรางวัล ซึ่งผู้โชคดีจะได้รับทุกรางวัลอีกด้วย และในกรณีที่ผู้ได้รับรางวัลเป็นนิติบุคคลหรือหน่วยงาน สามารถโอนสิทธิ์ให้กับพนักงานในหน่วยงานได้ โดยก่อนเริ่มพิธีจับสลากหาผู้โชคดี นายสุไลมาน บือแนปีแน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดยะลา เขต 1 ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานในพิธี ได้ให้เกียรติกล่าวเปิดงาน จากนั้น

ผู้แทนประธานรัฐสภา
กรรมการและผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ร่วมด้วย ดร.แวดีอราแม มะมิงจิ
ประธานผู้ทรงคุณวุฒิจุฬาราชมนตรี
พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์
เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และนายอับดุลบาซิ เจ๊ะมะ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา ได้ให้เกียรติจับสลากผู้ได้รับรางวัลแพ็กเกจเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ประจำปี 2567 จำนวน 20 รางวัล นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจาก ผศ.ดร.มะรอนิง สะแลมิง ประธานที่ปรึกษาธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย รศ.ดร.อิสมาอีลลุตฟิ จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี นายอำพล พงศ์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายศักดิ์กรียา บิลแสละ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา และนายอับดุลอาซิซ เจ๊ะมามะ รองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส
ได้ให้เกียรติจับสลากผู้ได้รับรางวัลแพ็กเกจเดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ประจำปี 2567 จำนวน 25 รางวัล โดยมี นายสุพัฒน์ พลทามูล ปลัดอำเภอเมืองยะลา ผู้แทนกรมการปกครอง
ให้เกียรติเป็นสักขีพยาน ทั้งนี้ผู้ได้รับรางวัลแพ็กเกจเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ประจำปี 2567 จำนวน 20 รางวัล

มีรายชื่อดังต่อไปนี้
รางวัลสำรองแพ็กเกจเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ มีรายชื่อดังต่อไปนี้
ผู้ได้รับรางวัลแพ็กเกจเดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ประจำปี 2567 จำนวน 25 รางวัล
มีรายชื่อดังต่อไปนี้
รางวัลสำรองแพ็กเกจเดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ มีรายชื่อดังต่อไปนี้ 1-25 ————………
……

โดยเมื่อเสร็จสิ้นจากพิธีจับสลากรางวัลแพ็กเกจเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์และอุมเราะห์ ประจำปี 2567 ได้รับเกียรติจาก นายแพทย์สำหมาด ละใบจิ ประธานบริษัทในเครือบารอกัตกรุ๊ป
ประธานผู้บริหาร ห้างหุ้นส่วนจำกัดอินตัน เอกข์เพรส (ผู้ให้บริการฮัจย์แลอุมเราะห์)
และประธานชมรม นักธุรกิจชายแดนใต้
พร้อมด้วยลูกค้าคนสำคัญผู้ที่ได้รับรางวัลแพ็กเกจเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ประจำปี 2567
นายมูฮัมหมัดฟาดิ้ล มะมิง ผู้โชคดีจากสาขายะลา ร่วมพูดคุยแชร์ประสบการณ์อันล้ำค่าครั้งหนึ่งในชีวิตผู้ศรัทธา ร่วมสร้างแรงบันดาลใจของผู้แสวงบุญพิธีฮัจย์ โดยภายในงานมีผู้เข้าร่วมพิธีกว่า 500 คน

By Kasima

ใส่ความเห็น

ประเด็น

“ทวี”รมว.ยุติธรรมลงพื้นที่พบประชาชนในเมืองหาดใหญ่เร่งแก้ปัญหายาเสพติดชายแดนใต้จากผลพวงของน้ำใบกระท่อมและกัญชาทำผู้ป่วยเพิ่มขึ้น13เปอร์เซ็นต์และป่วยจิตเพิ่มขึ้น20เปอร์เซ็น เร่งแก้ปัญหาหนี้สินประชาชนและข้าราชการหนี้กยศ.และเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสส.เขต2หาดใหญ่สมัยหน้า ส่วนคดีฮั้วสว.เชื่อที่ดีเอสไอรับเรื่องต้องมีมูลเมื่อเวลา15.30น.วันนี้(10พ.ค.68)ที่โรงแรมญันนะตีย์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางไปพบปะเยี่ยมเยียนประชาชนในพื้นที่อ.หาดใหญ่และใกล้เคียงพร้อมกับแถลงถึงนโยบายต่างๆทั้งในส่วนของกระทรวงยุติธรรมและรัฐบาลโดยมีตัวแทนภาคประชาชนทั้ง103ชุมชนของเมืองหาดใหญ่ตัวแทนภาคธุรกิจและสมาคมองค์กรต่างๆในเมืองหาดใหญ่และคณะกรรมการอิสลามประจำจ.สงขลาเข้าร่วมรับฟังราว500คน และยังเปิดให้ร่วมกันสะท้อนปัญหาเร่งด่วนที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชนพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยหนึ่งปัญหาสำคัญของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ต้องเร่งแก้ไขและควบคุมคือเรื่องยาเสพติด ทั้งใบกระท่อมและกัญชาที่แม้ว่าจะถูกถอดออกจากบัญชียาเสพติดเพราะขณะนี้พบว่ามีการเปิดร้านขายใบกระท่อมและน้ำใบกระท่อมจำนวนมากซึ่งในส่วนของน้ำใบกระท่อมนั้นยังถือว่าผิดกฏหมายอยู่ที่สำคัญ จากการลงพื้นที่ไปประชุมเรื่องนี้พบว่าขณะนี้มีผู้ที่เข้ารับการรักษาจากการดื่มน้ำใบกระท่อมเพิ่มขึ้น 13 เปอร์เซ็นต์ และป่วยจิตเวชเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ซึ่งต้องเร่งหามาตรการควบคุมเพราะกำลังกลายเป็นปัญหาด้านความมั่นคง ซึ่งการแก้ปัญหาเรื่องยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อาจจะต้องนำกฏอัยการศึกกลับมาใช้ และผู้ค้ายาเสพติดจะต้องไม่มีที่อยู่อีกเรื่องที่ทางกระทรวงยุติธรรมกำลังเร่งแก้ปัญหาให้กับประชาชนคือเรื่องของหนี้สินรวมถึงหนี้ของข้าราชการโดยเฉพาะครูซึ่งเป็นหนี้มากที่สุด และหนี้กยศ.ซึ่งขณะนี้กระทรวงยุติธรรมกำลังเร่งดำเนินการอยู่ เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกหนี้และเจ้าหนี้ได้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย และ เข้าถึงกระบวนการยุติธรรม รวมถึงสิทธิประโยชน์อื่น ๆ จากสถาบันการเงิน นอกจากนี้ยังมีเรื่องการแก้ปัญหาที่ดินเพื่อให้ชาวบ้านต้องมีที่ทำกินอย่างน้อยๆ 20 ไร่ส่วนเรื่องที่ประชาชนได้สะท้อนผ่าน พ.ต.อ.ทวี ผ่านไปยังรัฐบาลคือเรื่องปัญหาเศรษฐกิจและราคาพืชผลทางการเกษตรโดยเฉพาะยางพาราที่ตกต่ำ ซึ่งมีเจ้าของสวนยางรายหนึ่งบอกว่าสวนยาง60ไร่ตอนนี้ไม่มีคนกรีดแล้วเพราะว่าราคายกตกต่ำ ซึ่งพ.ต.อ.ทวี ก็รับที่จะประสานให้นอกจากนี้พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมยังให้สัมภาษณ์ถึงคดีฮั้วสว.หลังจากที่กกต. และดีเอสไอ นำหมายเรียกคดีฮั้ว สว.ไปส่งมอบให้ สว. 53 คน เข้าชี้แจงโดยระบุว่าคดีนี้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ทุกอย่างมันมีกฎหมายอยู่ คดีนี้ไม่หนักใจ และยิ่งดีด้วยซ้ำที่มีการตรวจสอบ เพราะว่าตอนนี้แม้แต่องค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ ก็ยังมีการแจ้งข้อหา แสดงว่าที่ดีเอสไอรับทำเรื่องนี้ต้องมีมูลที่สำคัญจะต้องอำนวยความยุติธรรมให้ทุกคน แม้แต่คนที่เข้าใจว่าตนเองถูกกล่าวหาถ้าอยากจะไปให้การก็ไปได้ การทำงานของกระทรวงยุติธรรม โดยกรมสอบสวนอยากให้เป็นมืออาชีพ คำว่ามืออาชีพต้องมีวิชาชีพด้วย เพราะวิชาชีพกับอาชีพต่างกัน อาชีพจะหากำไร ส่วนวิชาชีพ ต้องมีศิลธรรมจรรยาบรรณและกฏหมายเข้าไป ทางดีเอสไอจะทำในฐานะวิชาชีพ จะปลอดจากอิทธิพลใดๆมาครอบงำ ส่วนการจะเรียกสว.ล๊อต2ล๊อต3มาชี้แจงหรือไม่นั้นเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับกกต.สำหรับการลงพื้นที่อ.หาดใหญ่ของพ.ต.อ.ทวี ในวันนี้ยังได้มีการเปิดตัว พล.ต.ท.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.นราธิวาส รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค9และเกษียณราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานงบประมาณและการเงินสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยสมัยหน้าจะลงสมัครสส.เขต 2 จ.สงขลา ซึ่งอยู่ในพื้นที่อ.หาดใหญ่ ในนามของพรรคประชาชาติด้วย เพื่อเป็นตัวแทนของชาวเมืองหาดใหญ่และของพรรคประชาชาติ และตอนนี้ถึงจะยังไม่เป็นสส.แต่ก็ให้ลงพื้นที่ทำงานเหมือนสส.เพื่อรับเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนผ่านไปยังรัฐบาลและขยายฐานของพรรคประชาชาตินอกเหนือจากพื้นที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เป็นฐานเสียงหลัก และสมัยหน้าพรรคประชาชาติก็จะส่งผู้สมัครครบทุกจังหวัดแต่อาจจะไม่ครบทุกเขต

สงขลา / สนามแตก ผู้การชาติ เพื่อน ลุงตู่ เบอร์ 4 ปราศรัย โค้งสุดท้ายคนนับหมื่นชูโยบายโดนใจคนทั้งเมืองหาดใหญ่วันนี้ ( 9 พฤษภาคม 2568 ) เวลา 18.30 น. ที่โรงเรียนเอ็งเสียงสามัคคีหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาพันเอก (พิเศษ) สุชาติ จันทรโชติกุล หรือที่รู้จักกันในนาม “ผู้การชาติ” ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในฐานะผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ หมายเลข 4 ในนาม “ทีมหาดใหญ่ต้องดีกว่าเดิม”โดยมีผู้ขึ้นปราศรัย นาย ประมุข ลมูล อดีต ผวจ.ปัตตานี ประธานที่ปรึกษา พันเอก (พิเศษ) สุชาติ จันทรโชติกุล นายพิเชฐฏ พัฒนโชติ อดีตรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และประธาน บจก.เฮลทีเอิร์ธ มีผู้สนใจเข้าฟังปราศรัยหมื่นกว่า คนในงานเปิดตัวครั้งนี้ พันเอกสุชาติได้แถลงนโยบายหลัก 6 ด้าน ภายใต้แนวคิด “ชุมชนดีกว่าเดิม” โดยเน้นการกระจายงบประมาณสู่ชุมชนอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส นโยบายสำคัญประกอบด้วย:• การจัดสรรงบประมาณ 130 ล้านบาทต่อปีให้กับ 103 ชุมชนในเขตเทศบาล เพื่อให้ชุมชนสามารถบริหารและพัฒนาตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ• การสนับสนุนกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ด้วยงบประมาณ 50 ล้านบาทต่อปี เพื่อเสริมสร้างระบบสาธารณสุขในระดับชุมชน• การส่งเสริมกลุ่มสตรีและเยาวชนให้มีบทบาทในการพัฒนาชุมชนและสังคม• การพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ให้มีความทันสมัยและตอบสนองความต้องการของประชาชน• การส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนและการสร้างงานในพื้นที่• การพัฒนาการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับประชาชนทุกช่วงวัย