27 ส.ค.67 – ปตท.สผ. เข้มมาตรฐานความปลอดภัย จับมือสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินฯ กระทรวงสาธารณสุข และ ม.อ. ซ้อมแผนประจำปี 2567 เตรียมความพร้อมจัดการภาวะฉุกเฉินกรณีอุบัติภัยหมู่ในพื้นที่ปฏิบัติการ

แพทย์หญิง อาทิตยา จงไพบูลย์กิจ ผู้จัดการแผนกการแพทย์และอาชีวอนามัย บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. กล่าวว่า มาตรฐานด้านความปลอดภัย มั่นคง อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม เป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินงานของ

ปตท.สผ. จึงจับมือกับ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข (สพฉ.) และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ “การจัดการภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ในกรณีอุบัติภัยหมู่ในพื้นที่ปฏิบัติการสงขลา” ในการตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ในพื้นที่และซ้อมแผนระดับจังหวัด ในวันที่ 27-28 สิงหาคม 2567 ณ โรงแรมลากูนาแกรนด์ แอนด์สปา จังหวัดสงขลา เพื่อเตรียมความพร้อมทั้งภายในและภายนอกร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่ โดยมีผู้ร่วมกิจกรรมประมาณ 100 คน

การอบรมเชิงปฏิบัติการและฝึกซ้อมในครั้งนี้ เป็นการดำเนินงานตามแนวทางการบริหาร ควบคุมและป้องกันความเสี่ยง เพื่อเตรียมความพร้อม ที่ ปตท.สผ. ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับการปฏิบัติงานในทุกระดับ เพื่อให้บุคลากรภายใน ปตท.สผ. และหน่วยงานภายนอกต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ มีความรู้เข้าใจบทบาทหน้าที่ และเพื่อพัฒนาศักยภาพ เตรียมความพร้อมรองรับกรณีอุบัติภัยหมู่ได้ด้วยการจัดการอย่างเป็นระบบ ตามมาตรฐานสากล สามารถประสาน ปฏิบัติงานร่วมกันได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ มีความพร้อมร่วมกันตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉิน เช่น อุบัติภัยหมู่ หรือภัยพิบัติ ได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพสูงสุด เป็นการป้องกันและลดผลกระทบความเสียหายด้านต่างๆ รวมทั้งด้านสุขภาพ สังคม และเศรษฐกิจโดยรวม และสามารถพัฒนายกระดับการเตรียมรับมือให้ทันสมัยสอดคล้องกับการพัฒนาของเทคโนโลยีในปัจจุบันและอนาคต

นายบัญชา ฉิมตระกูล ผู้จัดการฐานสนับสนุนสงขลา บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. กล่าวว่า ฐานสนับสนุนการพัฒนาปิโตรเลียม สงขลา ปตท.สผ. ให้ความสำคัญกับการซักซ้อมเพื่อตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉิน เช่น กรณีหากเกิดอุบัติภัยขนาดใหญ่ หากมีการเตรียมความพร้อมไว้อย่างดี จะทำให้สามารถรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพช่วยบรรเทาผลกระทบต่างๆ ที่เกิด และกรณีอุบัติภัยขาดเล็ก ก็อาจไม่เกิดผลกระทบ หากมีความพร้อมในการรับมือได้ดี

เรืออากาศเอก นายแพทย์อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) อุบัติภัยส่งผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้ว อุบัติภัยหมู่ ซึ่งส่งผลกระทบในวงกว้าง และเมื่อเกิดเหตุแล้ว ไม่ได้เป็นเพียงความรับผิดชอบของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งโดยเฉพาะ แต่เป็นภารกิจที่ทุกภาคส่วนต้องบูรณาการ เพื่อตอบสนอง บรรเทา และฟื้นฟูภัยที่เกิดขึ้น โดยครั้งนี้ ใช้เครื่องมือฝึกแบบ MASS SIM หรือ Mass Casualty Simulation ที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนา ปรับปรุงแนวทางระดับจังหวัดให้สอดคล้องกับการปฏิบัติงานตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ระดับสากล และมีฝึกซ้อมแผนและใช้อุปกรณ์ รองรับอุบัติภัยหมู่ในระบบ Thai Sim โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ให้ความรู้เนื้อหาครอบคลุมการตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่ใช้ในระดับประเทศและสากลด้วย

ติดตามข่าวสารได้ทาง
www.metro915news.com
มหานครหาดใหญ่นิวส์
ลงโฆษณา0988796292

By Kasima

ใส่ความเห็น

ประเด็น

“ทวี”รมว.ยุติธรรมลงพื้นที่พบประชาชนในเมืองหาดใหญ่เร่งแก้ปัญหายาเสพติดชายแดนใต้จากผลพวงของน้ำใบกระท่อมและกัญชาทำผู้ป่วยเพิ่มขึ้น13เปอร์เซ็นต์และป่วยจิตเพิ่มขึ้น20เปอร์เซ็น เร่งแก้ปัญหาหนี้สินประชาชนและข้าราชการหนี้กยศ.และเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสส.เขต2หาดใหญ่สมัยหน้า ส่วนคดีฮั้วสว.เชื่อที่ดีเอสไอรับเรื่องต้องมีมูลเมื่อเวลา15.30น.วันนี้(10พ.ค.68)ที่โรงแรมญันนะตีย์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางไปพบปะเยี่ยมเยียนประชาชนในพื้นที่อ.หาดใหญ่และใกล้เคียงพร้อมกับแถลงถึงนโยบายต่างๆทั้งในส่วนของกระทรวงยุติธรรมและรัฐบาลโดยมีตัวแทนภาคประชาชนทั้ง103ชุมชนของเมืองหาดใหญ่ตัวแทนภาคธุรกิจและสมาคมองค์กรต่างๆในเมืองหาดใหญ่และคณะกรรมการอิสลามประจำจ.สงขลาเข้าร่วมรับฟังราว500คน และยังเปิดให้ร่วมกันสะท้อนปัญหาเร่งด่วนที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชนพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยหนึ่งปัญหาสำคัญของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ต้องเร่งแก้ไขและควบคุมคือเรื่องยาเสพติด ทั้งใบกระท่อมและกัญชาที่แม้ว่าจะถูกถอดออกจากบัญชียาเสพติดเพราะขณะนี้พบว่ามีการเปิดร้านขายใบกระท่อมและน้ำใบกระท่อมจำนวนมากซึ่งในส่วนของน้ำใบกระท่อมนั้นยังถือว่าผิดกฏหมายอยู่ที่สำคัญ จากการลงพื้นที่ไปประชุมเรื่องนี้พบว่าขณะนี้มีผู้ที่เข้ารับการรักษาจากการดื่มน้ำใบกระท่อมเพิ่มขึ้น 13 เปอร์เซ็นต์ และป่วยจิตเวชเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ซึ่งต้องเร่งหามาตรการควบคุมเพราะกำลังกลายเป็นปัญหาด้านความมั่นคง ซึ่งการแก้ปัญหาเรื่องยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อาจจะต้องนำกฏอัยการศึกกลับมาใช้ และผู้ค้ายาเสพติดจะต้องไม่มีที่อยู่อีกเรื่องที่ทางกระทรวงยุติธรรมกำลังเร่งแก้ปัญหาให้กับประชาชนคือเรื่องของหนี้สินรวมถึงหนี้ของข้าราชการโดยเฉพาะครูซึ่งเป็นหนี้มากที่สุด และหนี้กยศ.ซึ่งขณะนี้กระทรวงยุติธรรมกำลังเร่งดำเนินการอยู่ เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกหนี้และเจ้าหนี้ได้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย และ เข้าถึงกระบวนการยุติธรรม รวมถึงสิทธิประโยชน์อื่น ๆ จากสถาบันการเงิน นอกจากนี้ยังมีเรื่องการแก้ปัญหาที่ดินเพื่อให้ชาวบ้านต้องมีที่ทำกินอย่างน้อยๆ 20 ไร่ส่วนเรื่องที่ประชาชนได้สะท้อนผ่าน พ.ต.อ.ทวี ผ่านไปยังรัฐบาลคือเรื่องปัญหาเศรษฐกิจและราคาพืชผลทางการเกษตรโดยเฉพาะยางพาราที่ตกต่ำ ซึ่งมีเจ้าของสวนยางรายหนึ่งบอกว่าสวนยาง60ไร่ตอนนี้ไม่มีคนกรีดแล้วเพราะว่าราคายกตกต่ำ ซึ่งพ.ต.อ.ทวี ก็รับที่จะประสานให้นอกจากนี้พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมยังให้สัมภาษณ์ถึงคดีฮั้วสว.หลังจากที่กกต. และดีเอสไอ นำหมายเรียกคดีฮั้ว สว.ไปส่งมอบให้ สว. 53 คน เข้าชี้แจงโดยระบุว่าคดีนี้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ทุกอย่างมันมีกฎหมายอยู่ คดีนี้ไม่หนักใจ และยิ่งดีด้วยซ้ำที่มีการตรวจสอบ เพราะว่าตอนนี้แม้แต่องค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ ก็ยังมีการแจ้งข้อหา แสดงว่าที่ดีเอสไอรับทำเรื่องนี้ต้องมีมูลที่สำคัญจะต้องอำนวยความยุติธรรมให้ทุกคน แม้แต่คนที่เข้าใจว่าตนเองถูกกล่าวหาถ้าอยากจะไปให้การก็ไปได้ การทำงานของกระทรวงยุติธรรม โดยกรมสอบสวนอยากให้เป็นมืออาชีพ คำว่ามืออาชีพต้องมีวิชาชีพด้วย เพราะวิชาชีพกับอาชีพต่างกัน อาชีพจะหากำไร ส่วนวิชาชีพ ต้องมีศิลธรรมจรรยาบรรณและกฏหมายเข้าไป ทางดีเอสไอจะทำในฐานะวิชาชีพ จะปลอดจากอิทธิพลใดๆมาครอบงำ ส่วนการจะเรียกสว.ล๊อต2ล๊อต3มาชี้แจงหรือไม่นั้นเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับกกต.สำหรับการลงพื้นที่อ.หาดใหญ่ของพ.ต.อ.ทวี ในวันนี้ยังได้มีการเปิดตัว พล.ต.ท.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.นราธิวาส รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค9และเกษียณราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานงบประมาณและการเงินสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยสมัยหน้าจะลงสมัครสส.เขต 2 จ.สงขลา ซึ่งอยู่ในพื้นที่อ.หาดใหญ่ ในนามของพรรคประชาชาติด้วย เพื่อเป็นตัวแทนของชาวเมืองหาดใหญ่และของพรรคประชาชาติ และตอนนี้ถึงจะยังไม่เป็นสส.แต่ก็ให้ลงพื้นที่ทำงานเหมือนสส.เพื่อรับเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนผ่านไปยังรัฐบาลและขยายฐานของพรรคประชาชาตินอกเหนือจากพื้นที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เป็นฐานเสียงหลัก และสมัยหน้าพรรคประชาชาติก็จะส่งผู้สมัครครบทุกจังหวัดแต่อาจจะไม่ครบทุกเขต

สงขลา / สนามแตก ผู้การชาติ เพื่อน ลุงตู่ เบอร์ 4 ปราศรัย โค้งสุดท้ายคนนับหมื่นชูโยบายโดนใจคนทั้งเมืองหาดใหญ่วันนี้ ( 9 พฤษภาคม 2568 ) เวลา 18.30 น. ที่โรงเรียนเอ็งเสียงสามัคคีหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาพันเอก (พิเศษ) สุชาติ จันทรโชติกุล หรือที่รู้จักกันในนาม “ผู้การชาติ” ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในฐานะผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ หมายเลข 4 ในนาม “ทีมหาดใหญ่ต้องดีกว่าเดิม”โดยมีผู้ขึ้นปราศรัย นาย ประมุข ลมูล อดีต ผวจ.ปัตตานี ประธานที่ปรึกษา พันเอก (พิเศษ) สุชาติ จันทรโชติกุล นายพิเชฐฏ พัฒนโชติ อดีตรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และประธาน บจก.เฮลทีเอิร์ธ มีผู้สนใจเข้าฟังปราศรัยหมื่นกว่า คนในงานเปิดตัวครั้งนี้ พันเอกสุชาติได้แถลงนโยบายหลัก 6 ด้าน ภายใต้แนวคิด “ชุมชนดีกว่าเดิม” โดยเน้นการกระจายงบประมาณสู่ชุมชนอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส นโยบายสำคัญประกอบด้วย:• การจัดสรรงบประมาณ 130 ล้านบาทต่อปีให้กับ 103 ชุมชนในเขตเทศบาล เพื่อให้ชุมชนสามารถบริหารและพัฒนาตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ• การสนับสนุนกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ด้วยงบประมาณ 50 ล้านบาทต่อปี เพื่อเสริมสร้างระบบสาธารณสุขในระดับชุมชน• การส่งเสริมกลุ่มสตรีและเยาวชนให้มีบทบาทในการพัฒนาชุมชนและสังคม• การพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ให้มีความทันสมัยและตอบสนองความต้องการของประชาชน• การส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนและการสร้างงานในพื้นที่• การพัฒนาการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับประชาชนทุกช่วงวัย