“มาซาทาดะ อิชิอิ-เอเลียส ดอเลาะ” ร่วมแถลงข่าวก่อนพบ ฟิลิปปินส์ ใน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 50 ที่สงขลา

เมื่อ วันที่ 10 ตุลาคม 2567 เวลา 14.05 น. ณ ห้องแถลงข่าว สนามกีฬาติณสูลานนท์ ฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตบอลชิง ถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 50 จัดงานแถลงข่าวก่อนการแข่งขันฟุตบอล คิงส์ คัพ รอบรองชนะเลิศ คู่ที่สอง ระหว่าง ทีมชาติไทย (เจ้าภาพ) กับ ทีมชาติฟิลิปปินส์

การแถลงข่าวครั้งนี้นำโดย มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย พร้อมด้วย เอเลียส ดอเลาะ ส่วนฟิลิปปินส์ นำมาโดย อัลเบิร์ค คาเปญาส หัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ และ จอห์น พาทริค สเตราสส์ นักเตะสารพัดประโยชน์จากสโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด

มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า “ตอนที่ผมเดินทางมาถึงจังหวัดสงขลา ผมรู้สึกประทับใจกับการต้อนรับของเจ้าภาพสงขลาเป็นอย่างมาก”

“ฟุตบอล คิงส์ คัพ คือถ้วยพระราชทาน และเป็นครั้งที่ 50 อย่างที่ผมเคยพูดไป เราลงแข่งขันรายการนี้ เราต้องการเอาชนะทั้งสองเกม ซึ่งเกมแรกกับฟิลิปปินส์ ต้องยอมรับว่าพวกเขาเป็นทีมที่ดี แต่ทีมของเราก็ซ้อมอย่างหนัก และทำการบ้านมาดี”

“เรื่องของสภาพอากาศเราไม่สามารถควบคุมได้ ทั้งตัวผมและนักกีฬาต้องพยายามปรับตัว แต่แอบภาวนาขอให้ไม่มีฝน และทำให้ฟุตบอลเล่นกันออกมาได้สนุก เพื่อแฟนบอลทั้งสองเกม หลังจบฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกมา ทีมของเราได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่น ซึ่งผมคงไม่สามารถพูดได้ว่า 11 ตัวจริงที่จะลงสนามในเกมวันพรุ่งนี้จะเป็นใคร”

ด้าน เอเลียส ดอเลาะ กองหลังทีมชาติไทย กล่าวว่า “ผมรู้สึกพิเศษเป็นอย่างมาก ที่ได้มาแข่งขันรายการคิงส์ คัพ ที่จังหวัดสงขลา เพราะนี่คือสถานที่ที่ผมเล่นฟุตบอลไทยเป็นครั้งแรก ทีมชาติไทย มีนักเตะหน้าใหม่ และดาวรุ่งหลายคน ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงไปจากฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ส่วนตัวก็มีความมั่นใจในทีมชุดนี้ และหวังว่าเราจะคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ”

“ขอฝากแฟนบอลทั้งจากสงขลา รวมถึง สตูล ยะลา ปัตตานีและทุกจังหวัด มาเชียร์พวกเราทีมชาติไทยคว้าแชมป์ คิงส์ คัพ ครั้งนี้ด้วย”

ขณะที่ อัลเบิร์ต คาเปญาส หัวหน้าผู้ฝึกสอน ทีมชาติ ฟิลิปปินส์ กล่าวว่า “ผมรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากกับกระแสแฟนบอลที่เกิดขึ้น และเชื่อว่า การแข่งขันครั้งนี้จะเป็นการแข่งขันที่สนุกแน่นอน ที่ผ่านมา ฟิลิปปินส์ มีการเตรียมทีมเป็นอย่างดี และเราได้วิเคราะห์ทีมชาติไทยมาแล้ว และได้เห็นถึงความแข็งแกร่งทั้งเกมรุก และเกมรับ แต่ผมเชื่อว่าฟิลิปปินส์ ก็มีนักเตะที่ดีเช่นกัน”

“ส่วนสภาพอากาศ ไม่ว่าจะเจอฝนตกหรือรูปแบบไหน เราต้องพยายามปรับตัวให้ได้ และไม่นำมันมาเป็นข้ออ้างและต้องพยายามทำเต็มที่เพื่อให้ได้รับชัยชนะ”

“ที่ผ่านมาผมเองได้พูดคุยเกี่ยวกับสไตล์การเล่นของทีม และพยายามศึกษาฟุตบอลในเอเชีย ไม่ใช่แค่ฟิลิปปินส์หรือไทย เพราะส่วนตัวผมเพิ่งมาจากยุโรป แต่จะพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ออกมาดีที่สุด”

ส่วน จอห์น พาทริค สเตราสส์ กล่าวว่า “ทีมของเรายังไม่ได้ซ้อมด้วยกันมากเท่าไหร่ แต่ก็หวังว่าเราจะสามารถคว้าชัยชนะมาครองได้ แม้จะเกมที่ยากก็ตาม พรุ่งนี้ผมเชื่อว่าจะมีแฟนบอลชาวไทยเข้ามาชมเกมกันเต็มสนาม แต่สำหรับพวกเราจะพยายามทำเต็มที่แน่นอนในเกมวันพรุ่งนี้”

สำหรับ การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 50 ทุกนัดจะแข่งขันที่สนามกีฬา ติณสูลานนท์ จังหวัดสงขลา โดยมีโปรแกรมการแข่งขัน มีดังนี้

วันที่ 11 ตุลาคม 2567
16.30 น. ซีเรีย (92) พบ ทาจิกิสถาน (103)
20.00 น. ทีมชาติไทย (เจ้าภาพ) (100) พบ ฟิลิปปินส์ (148)

ผู้ชนะจะผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ในวันที่ 14 ตุลาคม 2567 ส่วนผู้แพ้ก็จะแข่งขันกันในนัดชิงอันดับ 3 ในวันเดียวกันโดยมีกำหนดการดังนี้

16.30 น. รอบชิงชนะเลิศ อันดับ 3
20.00 น. รอบชิงชนะเลิศ

โดยทุกนัดที่ทีมชาติไทย ลงทำการแข่งขันจะถ่ายทอดสดผ่านทาง ไทยรัฐ ทีวี HD ช่อง 32 และ Facebook, Youtube Changsuek Official

แฟนบอลที่สนใจ สามารถซื้อได้ที่ เว็บไซต์ https://www.thaiticketmajor.com/sport/football-50th-kings-cup-2024.html และจุดจำหน่ายไทยทิคเก็ตเมเจอร์ สาขาหลัก 11 สาขา ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป รวมถึงสถานที่จำหน่ายบัตรจริงในตัวเมืองสงขลา

จุดที่ 1
ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 เซ็นทรัล หาดใหญ่
เริ่มจำหน่ายเวลา 10.30 น. เป็นต้นไป
จุดที่ 2
อาคารสำนักงาน สนามกีฬาติณสูลานนท์
อ.เมือง จ.สงขลา
จุดที่ 3
โรงแรมลากูน่า แกรนด์ โฮเทล แอนด์ สปา สงขลา
จุดที่ 4
บริษัท มาสเตอร์พีซ แอนด์ โครเชท์ จำกัด

ราคาบัตร​​​

โซน WA/WB/WC/WD : 600 บาท และ AWAY 600 บาท
โซน E : 500 บาท
โซน N1 / N2 / N3 : 300 บาท
โซน S1 / S2 / S3 :300 บาท

รายละเอียดบัตร : บัตร 1 ใบ (ต่อ 1 วัน) สามารถเข้าชมการแข่งขันได้ 2 แมตช์

FAThailand #ฟุตบอลทีมชาติไทย #ฟุตบอลคิงส์คัพ #ทีมชาติไทย #internationalAmatch #Amatch #Thailand #Songkhla

สนใจลงโฆษณาโทร 098 – 8796292
ติดตามข่าวสารได้ทาง Metro Hatyai News

มหานครหาดใหญ่นิวส์

www.metro915news.com

By Kasima

ใส่ความเห็น

ประเด็น

“ทวี”รมว.ยุติธรรมลงพื้นที่พบประชาชนในเมืองหาดใหญ่เร่งแก้ปัญหายาเสพติดชายแดนใต้จากผลพวงของน้ำใบกระท่อมและกัญชาทำผู้ป่วยเพิ่มขึ้น13เปอร์เซ็นต์และป่วยจิตเพิ่มขึ้น20เปอร์เซ็น เร่งแก้ปัญหาหนี้สินประชาชนและข้าราชการหนี้กยศ.และเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสส.เขต2หาดใหญ่สมัยหน้า ส่วนคดีฮั้วสว.เชื่อที่ดีเอสไอรับเรื่องต้องมีมูลเมื่อเวลา15.30น.วันนี้(10พ.ค.68)ที่โรงแรมญันนะตีย์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางไปพบปะเยี่ยมเยียนประชาชนในพื้นที่อ.หาดใหญ่และใกล้เคียงพร้อมกับแถลงถึงนโยบายต่างๆทั้งในส่วนของกระทรวงยุติธรรมและรัฐบาลโดยมีตัวแทนภาคประชาชนทั้ง103ชุมชนของเมืองหาดใหญ่ตัวแทนภาคธุรกิจและสมาคมองค์กรต่างๆในเมืองหาดใหญ่และคณะกรรมการอิสลามประจำจ.สงขลาเข้าร่วมรับฟังราว500คน และยังเปิดให้ร่วมกันสะท้อนปัญหาเร่งด่วนที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชนพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยหนึ่งปัญหาสำคัญของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ต้องเร่งแก้ไขและควบคุมคือเรื่องยาเสพติด ทั้งใบกระท่อมและกัญชาที่แม้ว่าจะถูกถอดออกจากบัญชียาเสพติดเพราะขณะนี้พบว่ามีการเปิดร้านขายใบกระท่อมและน้ำใบกระท่อมจำนวนมากซึ่งในส่วนของน้ำใบกระท่อมนั้นยังถือว่าผิดกฏหมายอยู่ที่สำคัญ จากการลงพื้นที่ไปประชุมเรื่องนี้พบว่าขณะนี้มีผู้ที่เข้ารับการรักษาจากการดื่มน้ำใบกระท่อมเพิ่มขึ้น 13 เปอร์เซ็นต์ และป่วยจิตเวชเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ซึ่งต้องเร่งหามาตรการควบคุมเพราะกำลังกลายเป็นปัญหาด้านความมั่นคง ซึ่งการแก้ปัญหาเรื่องยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อาจจะต้องนำกฏอัยการศึกกลับมาใช้ และผู้ค้ายาเสพติดจะต้องไม่มีที่อยู่อีกเรื่องที่ทางกระทรวงยุติธรรมกำลังเร่งแก้ปัญหาให้กับประชาชนคือเรื่องของหนี้สินรวมถึงหนี้ของข้าราชการโดยเฉพาะครูซึ่งเป็นหนี้มากที่สุด และหนี้กยศ.ซึ่งขณะนี้กระทรวงยุติธรรมกำลังเร่งดำเนินการอยู่ เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกหนี้และเจ้าหนี้ได้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย และ เข้าถึงกระบวนการยุติธรรม รวมถึงสิทธิประโยชน์อื่น ๆ จากสถาบันการเงิน นอกจากนี้ยังมีเรื่องการแก้ปัญหาที่ดินเพื่อให้ชาวบ้านต้องมีที่ทำกินอย่างน้อยๆ 20 ไร่ส่วนเรื่องที่ประชาชนได้สะท้อนผ่าน พ.ต.อ.ทวี ผ่านไปยังรัฐบาลคือเรื่องปัญหาเศรษฐกิจและราคาพืชผลทางการเกษตรโดยเฉพาะยางพาราที่ตกต่ำ ซึ่งมีเจ้าของสวนยางรายหนึ่งบอกว่าสวนยาง60ไร่ตอนนี้ไม่มีคนกรีดแล้วเพราะว่าราคายกตกต่ำ ซึ่งพ.ต.อ.ทวี ก็รับที่จะประสานให้นอกจากนี้พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมยังให้สัมภาษณ์ถึงคดีฮั้วสว.หลังจากที่กกต. และดีเอสไอ นำหมายเรียกคดีฮั้ว สว.ไปส่งมอบให้ สว. 53 คน เข้าชี้แจงโดยระบุว่าคดีนี้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ทุกอย่างมันมีกฎหมายอยู่ คดีนี้ไม่หนักใจ และยิ่งดีด้วยซ้ำที่มีการตรวจสอบ เพราะว่าตอนนี้แม้แต่องค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ ก็ยังมีการแจ้งข้อหา แสดงว่าที่ดีเอสไอรับทำเรื่องนี้ต้องมีมูลที่สำคัญจะต้องอำนวยความยุติธรรมให้ทุกคน แม้แต่คนที่เข้าใจว่าตนเองถูกกล่าวหาถ้าอยากจะไปให้การก็ไปได้ การทำงานของกระทรวงยุติธรรม โดยกรมสอบสวนอยากให้เป็นมืออาชีพ คำว่ามืออาชีพต้องมีวิชาชีพด้วย เพราะวิชาชีพกับอาชีพต่างกัน อาชีพจะหากำไร ส่วนวิชาชีพ ต้องมีศิลธรรมจรรยาบรรณและกฏหมายเข้าไป ทางดีเอสไอจะทำในฐานะวิชาชีพ จะปลอดจากอิทธิพลใดๆมาครอบงำ ส่วนการจะเรียกสว.ล๊อต2ล๊อต3มาชี้แจงหรือไม่นั้นเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับกกต.สำหรับการลงพื้นที่อ.หาดใหญ่ของพ.ต.อ.ทวี ในวันนี้ยังได้มีการเปิดตัว พล.ต.ท.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.นราธิวาส รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค9และเกษียณราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานงบประมาณและการเงินสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยสมัยหน้าจะลงสมัครสส.เขต 2 จ.สงขลา ซึ่งอยู่ในพื้นที่อ.หาดใหญ่ ในนามของพรรคประชาชาติด้วย เพื่อเป็นตัวแทนของชาวเมืองหาดใหญ่และของพรรคประชาชาติ และตอนนี้ถึงจะยังไม่เป็นสส.แต่ก็ให้ลงพื้นที่ทำงานเหมือนสส.เพื่อรับเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนผ่านไปยังรัฐบาลและขยายฐานของพรรคประชาชาตินอกเหนือจากพื้นที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เป็นฐานเสียงหลัก และสมัยหน้าพรรคประชาชาติก็จะส่งผู้สมัครครบทุกจังหวัดแต่อาจจะไม่ครบทุกเขต

สงขลา / สนามแตก ผู้การชาติ เพื่อน ลุงตู่ เบอร์ 4 ปราศรัย โค้งสุดท้ายคนนับหมื่นชูโยบายโดนใจคนทั้งเมืองหาดใหญ่วันนี้ ( 9 พฤษภาคม 2568 ) เวลา 18.30 น. ที่โรงเรียนเอ็งเสียงสามัคคีหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาพันเอก (พิเศษ) สุชาติ จันทรโชติกุล หรือที่รู้จักกันในนาม “ผู้การชาติ” ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในฐานะผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ หมายเลข 4 ในนาม “ทีมหาดใหญ่ต้องดีกว่าเดิม”โดยมีผู้ขึ้นปราศรัย นาย ประมุข ลมูล อดีต ผวจ.ปัตตานี ประธานที่ปรึกษา พันเอก (พิเศษ) สุชาติ จันทรโชติกุล นายพิเชฐฏ พัฒนโชติ อดีตรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และประธาน บจก.เฮลทีเอิร์ธ มีผู้สนใจเข้าฟังปราศรัยหมื่นกว่า คนในงานเปิดตัวครั้งนี้ พันเอกสุชาติได้แถลงนโยบายหลัก 6 ด้าน ภายใต้แนวคิด “ชุมชนดีกว่าเดิม” โดยเน้นการกระจายงบประมาณสู่ชุมชนอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส นโยบายสำคัญประกอบด้วย:• การจัดสรรงบประมาณ 130 ล้านบาทต่อปีให้กับ 103 ชุมชนในเขตเทศบาล เพื่อให้ชุมชนสามารถบริหารและพัฒนาตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ• การสนับสนุนกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ด้วยงบประมาณ 50 ล้านบาทต่อปี เพื่อเสริมสร้างระบบสาธารณสุขในระดับชุมชน• การส่งเสริมกลุ่มสตรีและเยาวชนให้มีบทบาทในการพัฒนาชุมชนและสังคม• การพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ให้มีความทันสมัยและตอบสนองความต้องการของประชาชน• การส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนและการสร้างงานในพื้นที่• การพัฒนาการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับประชาชนทุกช่วงวัย