ผู้เขียน: Kasima

เปิดโลกสินค้า “From Sea To Soul” สัมผัสเสน่ห์ทะเลจากเพชรสมุทรคีรี สู่ใจกลางหาดใหญ่9 –13 กรกฎาคม 2568 ณ เซ็นทรัล หาดใหญ่

วันนี้ (9 ก.ค.68) เวลา 17.00 น…

สถาบันนโยบายสาธารณะ ม.อ. ร่วมกับ สสส. ยื่นข้อเสนอเชิงนโยบายระดับกลุ่มจังหวัด 3 จังหวัดชายแดนใต้ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพและหนุนเสริมการทำงานของคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอวันนี้ ( 9 ก.ค.68) ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา สถาบันนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรมเวทียื่นข้อเสนอเชิงนโยบายระดับกลุ่มจังหวัด ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพและหนุนเสริมการทำงานของคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ครอบคลุม 33 อำเภอในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ โดยมีดร.เพ็ญ สุขมาก ผู้อำนวยการสถาบันนโยบายสาธารณะ ม.อ. เป็นประธานเปิด พร้อด้วย ดร.ซอฟียะห์ มินะ อาจารย์สถาบันนโยบายสาธารณะ ม.อ. และ ผู้รับผิดชอบโครงการฯ กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดโครงการฯ โดยมีบุคลากร ภาคีเครือข่าย ด้านสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ประชุมผ่านระบบZoom เข้าร่วมสำหรับโครงการพัฒนาศักยภาพและหนุนเสริมการทำงานของคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.)ได้ เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเสริมสร้างขีดความสามารถของ พชอ. ทั้งในด้านองค์ความรู้ ระบบข้อมูล เครื่องมือสนับสนุน และทีมงานที่เข้มแข็ง โดยมีเป้าหมายเพื่อลดอัตราการตั้งครรภ์ซ้ำในวัยรุ่นกลุ่มอายุ 10–19 ปี ซึ่งยังคงอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส โดยโครงการนี้ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 8 – 9 กรกฎาคม 2568 โดยมีเวทีแลกเปลี่ยนการทำงานของ พชอ.ในพื้นที่ ,การเสวนาภาพรวมสถานการณ์การตั้งครรภ์ในวัยรุ่นพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ และบทบาท พชอ. รวมทั้งมอบรางวัลเชิดชูเกียรติให้กับ พชอ.ดีเด่นทั้ง 3 ระดับอีกด้วยทั้งนี้ ตัวแทนคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ( พชอ.)ได้ยื่นข้อเสนอเชิงนโยบายต่อผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส เรื่องแนวทางการพัฒนาขีดความสามารถของคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ ( พชอ) ในการป้องกันและแก้ไขปัญหากาตั้งครรภ์ในวัยรุ่น กรณีจังหวัดปัตตานี ยะลา และ นราธิวาส 4 เรื่องดังนี้

สนับสนุนการจัดตั้งทีมสนับสนุนท…

🏅🏆สงขลาพร้อมจัดยิ่งใหญ่! เซปักตะกร้อชิงแชมป์โลก ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 38 ระหว่างวันที่ 22 – 27 กรกฎาคม นี้.วันที่ 7 กรกฎาคม 2568 สมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย สหพันธ์เซปักตะกร้อนานาชาติ และภาคีเครือข่าย ร่วมแถลงความพร้อมในการจัดการแข่งขันเซปักตะกร้อชิงแชมป์โลก ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 38 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 27 กรกฎาคม 2568 โดยได้รับเกียรติจาก นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นายธนา ไชยประสิทธิ์ นายกสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย นายบุญชัย หล่อพิพัฒน์ ประธานสหพันธ์เซปักตะกร้อนานาชาติ (ISTAF) และ MR. MUHAMMAD FARIQ ABDUL HALIM รองประธานสหพันธ์ฯ ร่วมแถลงถึงความพร้อมและแนวทางการจัดงาน ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยมีนักกีฬาจาก 20 ประเทศเข้าร่วมการแข่งขัน.นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า จังหวัดสงขลามีความพร้อมรอบด้านในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในครั้งนี้ ทั้งในฐานะ “เมืองกีฬา” (Songkhla Sport City) และศูนย์กลางเศรษฐกิจของภาคใต้ที่เปี่ยมด้วยศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นด้านทรัพยากรธรรมชาติ ภูมิประเทศ ศิลปวัฒนธรรม รวมถึงอาหารพื้นเมืองที่หลากหลาย ทั้งนี้ จังหวัดยังได้รับการเสนอชื่อเป็นเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกด้านอาหาร (Gastronomy) และกำลังเดินหน้าสู่การเป็นเมืองมรดกโลกในปี 2571 การจัดการแข่งขันระดับนานาชาติครั้งนี้จึงนับเป็นโอกาสสำคัญในการประชาสัมพันธ์จังหวัดสู่สายตาชาวโลก.ด้านนายสุพิศ พิทักษ์ธรรม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา กล่าวเพิ่มเติมว่า อบจ.สงขลาให้ความสำคัญกับการพัฒนากีฬาและส่งเสริมให้สงขลาเป็นเมืองต้นแบบด้านกีฬา โดยเฉพาะกีฬาตะกร้อที่ได้รับความนิยมทั้งในไทยและประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย ซึ่งจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวและแฟนกีฬาจากต่างประเทศ เดินทางเข้ามายังจังหวัดสงขลา และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี.ขณะที่ นายธนา ไชยประสิทธิ์ นายกสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การแข่งขันเซปักตะกร้อชิงแชมป์โลก ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” นับเป็นรายการที่ยิ่งใหญ่และมีความสำคัญสูงสุดของวงการตะกร้อ โดยปีนี้มีนักกีฬากว่า 500 คน เจ้าหน้าที่และผู้ติดตามกว่า 200 คน จาก 20 ประเทศเข้าร่วม การแข่งขันแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่ (1) ตะกร้อลอดห่วงสากล ชายและหญิง (Hoop Event) (2) ตะกร้อทีม 4 คนผสม (Mix Quad Event – Premier / Division 1) (3) ตะกร้อ 4 คน ชายและหญิง (Quad Event – Premier / Division 1) (4) ตะกร้อทีมเดี่ยว ชายและหญิง (Regu Event – Division 1) (4) ตะกร้อทีมชุด ชายและหญิง (Team Event – Premier).ทั้งนี้ พิธีเปิดจะมีขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในวันอังคารที่ 22 กรกฎาคม 2568 โดยมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นเพื่อเผยแพร่เอกลักษณ์ของสงขลา และในวันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม 2568 จะมีพิธีปิดอย่างสมเกียรติ โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรีเป็นผู้แทนพระองค์มอบถ้วยพระราชทานและเหรียญรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศ ณ หาดใหญ่ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลหาดใหญ่ ซึ่งการแข่งขันจะจัดขึ้นทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 น. พร้อมถ่ายทอดสดพิธีเปิด-ปิด และแมตช์สำคัญผ่านทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส รวมถึงช่องทางออนไลน์ของสมาคมฯ ทั้ง YouTube และ Facebook เพื่อให้แฟนกีฬาทั่วโลกสามารถติดตามชมและส่งแรงใจเชียร์นักกีฬาตะกร้อไทย.ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทยและสหพันธ์เซปักตะกร้อนานาชาติ เพื่อรับรองการจัดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ.ในโอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้กล่าวเชิญชวนประชาชนร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดี ให้การต้อนรับนักกีฬาและผู้มาเยือนอย่างอบอุ่น พร้อมร่วมส่งแรงใจเชียร์ทีมชาติไทยคว้าชัยชนะ และร่วมสร้างชื่อเสียงให้จังหวัดสงขลาในเวทีโลก

..

วันที่ 7 กรกฎาคม 2568 (เวลา 09.00 น.) นายกฤษฎา พุกะทรัพย์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ผหญ.) เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสัมมนาสร้างความร่วมมือระหว่างสนามบินและชุมชนเพื่อการบริหารจัดการนกและสัตว์อันตราย ประจำปีงบประมาณ 2568 ของท่าอากาศยานหาดใหญ่ ตามแผนปฏิบัติการด้านความปลอดภัยของ ทอท. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบูรณาการในการบริหารจัดการนกและสัตว์อันตรายในท่าอากาศยานและพื้นที่ใกล้เคียงร่วมกับชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการสร้างความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลต่อความปลอดภัยทางการบิน และการวางแผนพัฒนาพื้นที่โดยรอบท่าอากาศยาน ควบคู่ไปกับการลดความเสี่ยงที่ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุทางการบิน รวมทั้งแนวทางการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ของท่าอากาศยานให้เป็นไปตามกฎหมาย และข้อกำหนดสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย โดยมีผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้างท่าอากาศยานหาดใหญ่ หน่วยราชการ สายการบิน และผู้เกี่ยวข้องฯ เข้าร่วมโครงการ ณ โรงแรมซิกเนเจอร์แอร์พอร์ตหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

🏆 เตรียมพบกับความยิ่งใหญ่! การแข่งขันเซปักตะกร้อชิงแชมป์โลก ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 38 ประจำปี 2568📅 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 27 กรกฎาคม 2568📍 ณ หาดใหญ่ฮอลล์ ชั้น 5 เซ็นทรัลหาดใหญ่ จ.สงขลา

🌍 พบกับ 12 ทีมชาติเข้าร่วมการแ…

ประเด็น

ทะลุจินตนาการ สัมผัสประสบการณ์เย็นสุดขั้ว -15°Cเผยเสน่ห์ไทยในรูปแบบใหม่ ครั้งแรกในประเทศไทย *กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับ จังหวัดสงขลา และเทศบาลนครหาดใหญ่ เปิดงาน “Vijit @Hat Yai “เสน่ห์ไทย ICE DOME” อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568 โดยมี นายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายณัฐ ครุฑสูตร ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายเจตสกุล เพ็ชรสกุล รองนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ และผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมงานฯ ในการมาร่วมสัมผัสประสบการณ์ครั้งแรกในประเทศไทย เผยเสน่ห์ไทยในรูปแบบใหม่ ด้วยการเปิดโลกน้ำแข็งขนาดมหึมา ที่จะทำให้คุณตื่นตาตื่นใจไปกับประติมากรรมน้ำแข็งแกะสลัก เพื่อนำเสนอความงดงามด้านประเพณี ศิลปะ และสถาปัตยกรรมผ่านรูปทรงแลนด์มาร์คสำคัญ และตัวละครในวรรณคดีที่เป็นไอคอนนิค และสะท้อนเสน่ห์ความเป็นไทย รวมถึงยังมีคาราวานร้านค้าร้านอาหารสุดปังทั่วทั้งงาน พร้อมโชว์การแสดงแกะสลักประติมากรรมน้ำแข็งในทุกๆ วันเสาร์และวันอาทิตย์ ณ สวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ เข้าชมฟรีได้ทุกวัน ไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม – 21 กันยายน 2568 เวลา 11.00 – 21.00 น.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้จัดโครงการเปิดประสบการณ์ Thailand Festival Experience สุดยิ่งใหญ่ในสามพื้นที่ จังหวัดอุดรธานี จังหวัดสงขลา เมืองหาดใหญ่ และจังหวัดลำปาง เพื่อตอกย้ำแนวคิด 5 Must Do in Thailand ให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยคุณค่าและความหมาย ซึ่ง จังหวัดสงขลา เมืองหาดใหญ่ เป็นพื้นที่ที่สองของการจัดงาน ในการสร้างประสบการณ์อันทรงคุณค่าและมุ่งสู่ความยั่งยืน พร้อมสร้างแรงจูงใจให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศให้มากยิ่งขึ้น ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้เดินทางมาสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวอันอัศจรรย์ด้วยการแสดง Light & Sound การแสดง Illumination ที่จะช่วยขยายเวลาการท่องเที่ยวในช่วงกลางคืนถือเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ก่อให้เกิดการจ้างงาน และสร้างรายได้หมุนเวียนต่อระบบเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ คาดการณ์ว่าตลอดระยะเวลาการจัดงานจะสร้างรายได้หมุนเวียนทางเศรษฐกิจมากถึง 720 ล้านบาท“Vijit @Hat Yai “เสน่ห์ไทย ICE DOME” มาเปลี่ยนค่ำคืนธรรมดาให้กลายเป็นช่วงเวลาแฟนตาซีเหนือจิตนาการกับ 7 จุดการแสดง ประกอบด้วยจุดที่ 1 ใต้สายธาราศิลป์ การแสดง Immersive สายน้ำไหล สัมผัสพลังแห่งการไหลเวียนของศิลป์ ผ่านเทคนิค Projection สุดตระการตา